การตั้งชื่อเครื่องสำอางไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องระวังให้ไม่ขัดกับกฎหมายและยังต้องดึงดูดลูกค้าอีกด้วย เพราะชื่อที่ใช้สามารถส่งผลต่อการรับรู้และความเชื่อถือของผู้บริโภค มาดูกันว่าหลักเกณฑ์การตั้งชื่อที่ไม่ผิดกฏหมาย และเคล็ดลับในการสร้างชื่อให้โดดเด่น

หลักการพิจารณาในการตั้งชื่อการค้าและเครื่องสำอาง
- ความหมายสอดคล้องทั้งภาษาไทยและอังกฤษ : ชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษต้องมีความหมายตรงกันหรือใช้ทับศัพท์
- ต้องไม่โอ้อวดหรือสื่อความหมายผิด: ห้ามใช้คำที่สื่อไปในทางโอ้อวด ไม่สุภาพ หรือทำให้เข้าใจผิดจากความจริง
- ต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย: ห้ามใช้คำที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย หรือสื่อถึงเรื่องทางเพศ
- ไม่สื่อถึงยา การรักษาหรือบำบัด: ห้ามใช้คำที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยา เช่น "Botox" หรือ "Antiseptic" สื่อไปในทางยาหรือมีผลระดับเซลล์ หรือมีผลต่อโครงสร้างของร่างกาย สื่อไปทางการรักษา
- ไม่สื่อไปทางเพศ : ห้ามใช้ข้อความที่ทำให้เข้าใจผิด แฝงเจตนาด้านเพศสัมพันธ์ เช่น สื่อในทางเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศ หรือเปลี่ยนแปลงขนาดทรวงอก
- มีที่มาที่ชัดเจน: ข้อความที่ใช้เป็นชื่อการค้าและชื่อเครื่องสำอาง จะต้องสามารถชี้แจงและสื่อความหมายไปในทางเครื่องสำอางได้อย่างสมเหตุสมผล

คำต้องห้ามในการตั้งชื่อเครื่องสำอาง
คำที่สื่อความหมาย/แสดงสรรพคุณเกินขอบข่ายความเป็นเครื่องสำอาง หรือไปในทางยา รวมถึงคำพ้องรูป/พ้องเสียง หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง ไม่สามารถนำมาใช้ตั้งชื่อได้ ได้แก่
- สื่อถึงการรักษาโรค: เช่น CURE / MED / MEDICATE / THERAPEUTIC / ANTI-INFLAMMATION / ANTI-INFLAM / ITCH / ITCHING / ITCHY / ANTIITCH / ITCH CONTROL / ITCHING RELIEVE / ITCHLESS/PAIN RELIEVE / REMEDY / REMEDIES / THERAPIE / THERAPY / RELIEF / RELIEVE / ACNE OUT / SUN BURN / ANTI-SUN BURN / BURN RELIEF / IGE CONTROLLING รวมถึงคำที่สื่อถึงโรค หรืออาการของโรค เช่น CALLUS / WAR
หมายเหตุ : คำต่อไปนี้ห้ามใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อเครื่องสำอาง แต่อาจใช้ได้ในบางกรณีที่ไม่ทำ ให้สื่อถึงผลต่อสุขภาพ โครงสร้าง หรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกาย เช่น
1. คำว่า MED, THERAPIE, THERAPY, RELIEF, RELIEVE อาจใช้ได้ในกรณีที่ไม่สื่อถึงผล ต่อสุขภาพ โครงสร้าง หรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกาย การบำบัด บรรเทา รักษา ป้องกันโรคหรือภาวะ ผิดปกติของร่างกาย หรือไปในทางยา
2. คำว่า REMEDY / REMEDIES อาจใช้ได้ในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม/หนังศีรษะ
3 . คำว่า ITCH / ITCHING / ITCHY / ANTI-ITCH / ITCH CONTROL อาจใช้ได้ใน ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม/หนังศีรษะ ที่ใช้แล้วล้างออกเท่านั้น
- สื่อถึงการฆ่าเชื้อ: เช่น Antiseptic, Kill germ, bacteria, virus รวมถึงการสะกดด้วยตัวอักษร/การออกเสียงที่อาจทำให้เข้าใจผิด เช่น Antiseptik
- สื่อถึงผลต่อสุขภาพ: เช่น Growth, Stop hair fall,สลายไขมัน
- สื่อถึงการใช้ทางการแพทย์: สื่อถึงการนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ร่างกายหรือใช้ร่วมกับเครื่องมือแพทย์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อนำสารผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกาย เช่น Mesotherapy, Lazer, Micro-Needle, Iontophoresis
- สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง: เช่น Hormones, Estrogen, Phytoestrogen, Stem Cell
- ผลิตภัณฑ์ยา: เช่น Botox, Botox-Liked
- ลบรอยแผลเป็น: เช่น Scar Eraser, Scar Treatment
- ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องสำอาง: เช่น Mosquito, Insect Repellant, Pet, Lubricant, Pharmacopia
- ชื่อพืชที่อาจทำให้เข้าใจผิด: ชื่อพืชที่ไม่ใช่ชื่อทางพฤกษศาสตร์ที่อาจทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง เช่น ว่านมหาเสน่ห์ หญ้ารีแพร์ (ฮียุ่ม, ว่านดอกทอง, ว่านรากราคะ) ว่านสาวหลง เป็นต้น
- ชื่อเล่นหรือชื่อจริงที่ทำให้เข้าใจผิดได้ : เป็นส่วนหนึ่งของชื่อผลิตภัณฑ์ เช่นพ้องกับชื่อยา ชื่อสารเคมี ชื่อประเทศ หรือชื่อที่สื่อถึงการบรรยายสรรพคุณ
- ห้ามใช้ชื่อที่สื่อถึงศาสนา ไสยศาสตร์ เทพเจ้าและความเชื่อต่าง ๆ: เนื่องจากอาจทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : หลักเกณฑ์การพิจารณา การจดแจ้งเครื่องสำอาง (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564)

คำแนะนำในการตั้งชื่อเครื่องสำอาง
- ใช้ชื่อสารที่มีอยู่ในสูตร: ถ้าผลิตภัณฑ์ของคุณมีสารพิเศษ เช่น Arbutin, Niacinamide ก็ใช้ชื่อนี้ไปเลย
- ใช้คำที่สื่อถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์: เช่น Whitening, Brightening, Anti-Acne ให้ลูกค้ารู้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์ของคุณทำอะไรได้บ้าง
- ใช้คำที่สื่อถึงการใช้งานของผลิตภัณฑ์: เช่น Sunscreen, UV Protection, Anti-Pollution เพื่อความชัดเจนและโดนใจลูกค้า
แนะนำคำที่สามารถใช้ในการตั้งชื่อเครื่องสำอาง
- สารในสูตร: ต้องมีสารซึ่งสัมพันธ์กับชื่อเครื่องสำอาง เช่น AHA, BHA
- คำสื่อถึงคุณสมบัติ: เช่น White, Bright, Acne
- คำสื่อถึงลักษณะของผลิตภัณฑ์: เช่น Milky, Pearly, Golden
- Acne, Anti-Acne, Blackhead ในสูตรจะต้องมีสารป้องกันสิว เช่น BHA (Salicylic acid), Tea Tree Oil ยกเว้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อได้เลย
- Cellulite, Anti-Cellulite ใช้เป็นชื่อในผลิตภัณฑ์ประเภทผิวกายเท่านั้น เช่น ผลิตภัณฑ์กระชับผิวกาย, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย และในสูตรจะต้องมีสาร เช่น Caffeine, Carnitine, Xanthine, Methylsilanol mannuronate, Sodium mannuronate methylsilanol, Coffea arabica seed extract, Coffea arabica seed powder
- Firm, Firming ใช้เป็นชื่อในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, ผลิตภัณฑ์กระชับผิว สำหรับผลิตภัณฑ์นวดผิวกายต้องมีสารที่ให้ความร้อน เช่น สารสกัดจาก พริก ขิง หรือ พริกไทย เป็นต้น หรือผลิตภัณฑ์นวดผิวหน้าต้องมีสารในกลุ่ม moisturizing, astringent
- lacenta, Amniotic Fluid ในสูตรจะต้องมีสาร Placental extract, Placental protein, Amniotic Fluid หรือมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่ผลิตมาจาก โค แพะ แกะ
- Pore Tightening, Pore Minimizing ใช้เป็นชื่อในผลิตภัณฑ์ประเภทตกแต่งใบหน้าหรือผิวกาย และผลิตภัณฑ์ปกปิดริ้วรอย หรือในสูตรจะต้องมีสารที่ทำหน้าที่ Astringent เช่น Hamamelis virginiana bark/leaf extract, Alcohol หรือ สารที่สามารถปกปิดรูขุมขน เช่น Silicone elastomer
- Anti Dandruff, ขจัดรังแค ในสูตรจะต้องมีสารที่สามารถขจัดรังแค เช่น Salicylic acid, Zinc pyrithione, Piroctone olamine, Climbazole
- Deodorant ในสูตรจะต้องมีสารที่ช่วยระงับกลิ่นกาย เช่น น้ำหอม หรือ สาร Antibacterial agent
- Antiperspirant ในสูตรจะต้องมีสารที่สามารถระงับเหงื่อ เช่น Aluminum chlorohydrate, Aluminum zirconium octachlorohydrex sly, Aluminium zirconium chloride hydroxide glyaine complexes
- Sunscreen, UV Protection ในสูตรจะต้องมีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด UV Broad Spectrum เมื่อมีสารกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB และ Water Resistance, SPF, PA จะต้องมีผลการทดสอบความสามารถดังกล่าวด้วย
- Infant, Baby, เด็กเล็ก ในสูตรต้องไม่มีสารที่ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
- pH Balance ผลิตภัณฑ์ต้องมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ที่เหมาะสมกับผิวหนังของคน คือค่า pH เท่ากับ 5.5 หากเป็นผิวส่วนอื่น เช่น จุดซ่อนเร้นให้ระบุค่า pH balance ให้สอดคล้องกับ pH ที่บริเวณนั้น
- Scrub ในสูตรจะต้องมีสารที่ทำหน้าที่ Abrasive และ Peeling ในสูตรจะต้องมีสารกลุ่ม exfoliating เช่น AHA, BHA
- Detox, Dtox, Detoxifying โดยต้องไม่แปลชื่อ และไม่บรรยายสรรพคุณ คำว่า Detox ไปในทางล้างพิษ หรือกำจัดสารพิษที่ฉลาก/โฆษณา และไม่บรรยายสรรพคุณเกินขอบข่ายความเป็นเครื่องสำอาง
- Nano ในสูตรจะต้องมีสารขนาดอนุภาคเท่ากับหรือเล็กกว่า 100 นาโนเมตร
- ชื่อที่ต้องการเอกสารรับรอง: เช่น Organic ต้องมีเอกสาร Organic Certificate
- กัญชง ใช้คำว่า Hemp, Hemp Seed, Cannabis, Cannabis Sativa, Cannabis Sativa Seed และ สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) จากกัญชาและกัญชง ใช้คำว่า Cannabidiol หรือ CBD
- “วิชาชีพเฉพาะ” คลินิก/Clinic/แพทย์/ดร.../Dr./Doctor/ด็อกเตอร์/หมอ/MD./Ph.D. หรือคำอื่นๆที่สื่อถึงแพทย์และสถานพยาบาล เป็นส่วนหนึ่งของชื่อจะต้องมีเอกสารหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องกับวิชาชีพนั้นๆ เช่น เภสัชกร ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม แพทย์ ต้องแนบเอกสารใบประกอบวิชาชีพ ในกรณีสถานที่ต้องมีเอกสารหลักฐานความเกี่ยวข้องของสถานพยาบาล หรือบุคคลผู้เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ และ Clinical จะต้องมีเอกสารการทดสอบทางคลินิกของผลิตภัณฑ์
การตั้งชื่อเครื่องสำอางที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้ผ่านการตรวจสอบจาก อย. แต่ยังช่วยสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้อีกด้วย ดังนั้น ควรปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้เพื่อให้ชื่อผลิตภัณฑ์ของคุณมีความเหมาะสมและน่าสนใจ เพียงทำตามหลักการเหล่านี้ คุณก็จะได้ชื่อผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและโดนใจลูกค้าแล้วค่ะ!
Spasoap & Skincare Factory โรงงานผลิตสบู่ ครีม เครื่องสำอาง GMP ของเราสามารถผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวหน้า บำรุงผิวกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลเส้นผม และหนังศีรษะ ซึ่งได้คุณภาพ ปลอดภัย พร้อมการันตีคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากล โดยควบคุมการผลิตด้วยมาตรฐานระดับสากล ASEAN GMP และ FDA
สำหรับใครที่อยากสร้างแบรนด์และพัฒนาสูตรสครับเฉพาะของแบรนด์สูตรของตนเองแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสร้างแบรนด์ได้ที่...
→ Line@ ID:@sr168 (ใส่@ด้านหน้า) → Email: contact@spasoapfactory.com → โทร : 0992939294, 0653838356 → สั่งซื้อเทสเตอร์ : @sr168 หรือ http://bit.ly/2xFJVrQ