สกินแคร์ขายดี เจาะตลาด วัยเก๋าพร้อมเปย์ ทางรอดแบรนด์ยุคใหม่

1. ครีมบำรุงผิวหน้า

• กรดไฮยาลูรอนิค ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
• คอลลาเจน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ส่งเสริมให้ผิวสุขภาพดี กระจ่างใส แลดูอ่อนวัย
• เรตินอล ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดริ้วรอยและจุดด่างดำ
• กลูต้าไธโอน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่
• สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ ชาเขียว แตงกวา เป็นต้น ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เรียบเนียน และกระจ่างใส
• Astaxanthin สาหร่ายสีแดงออแกนิค เป็น King of Anti-Oxidant นางสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่า Vitamin C ถึง 6000 เท่า เป็นที่สุดของตัวช่วยชะลอวัย ลดเลือนริ้วรอยแบบตื้นๆได้ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ลดความเสียหายของผิวเมื่อสัมผัสกับรังสี UV ได้อีกด้วย

2. เซรั่มบำรุงผิวหน้า

ประสิทธิภาพของ OSILIFT มีดังนี้

1. 86 % ของอาสาสมัครที่ทดลองใช้ OSILIFT พบว่าผิวตึงขึ้นทันทีหลังใช้
2. เมื่อวัดประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือ พบว่า OSILIFT สามารถลดริ้วรอยได้ภายใน 30 นาทีหลังการใช้เพียงครั้งเดียว) และสามรถลดริ้วรอยในระยะยาวได้ เมื่อใช้ OSILIFT วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 เดือน
3. 72 % ของอาสาสมัครพบว่า OSILIFT ช่วยให้ foundation ติดทนนานขึ้นอีกด้วย

นอกจากสารสกัดเด่นๆ แล้ว จุดขายที่ไม่แพ้สารสกัดคือ เนื้อเซรั่มที่ บางเบา สบายผิว อีกด้วย (หากสนใจลองเซรั่มหน้าเด็กสูตรโรงงานก่อนทำแบรนด์ สามารถสั่งเทสได้ผ่านทาง line @sr1668)

3. สบู่ลดกลิ่น

ผู้สูงอายุอาจมีแนวโน้มที่จะมีปัญหากลิ่นตัวมากกว่าคนหนุ่มสาว เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง การทำงานของระบบเผาผลาญลดลง และการทำงานของต่อมเหงื่อเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ผู้สูงอายุอาจมีปัญหาสุขภาพบางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ เป็นต้น ที่ทำให้ร่างกายมีกลิ่นตัวมากขึ้น สบู่ลดกลิ่นจะมีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

สารสกัดที่มีส่วนช่วยในการลดกลิ่น

1. สารสกัดจากธรรมชาติ

• ใบชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัว
• ใบสะระแหน่ มีสารเมนทอลที่ช่วยระงับกลิ่นและทำให้รู้สึกสดชื่น
• เปลือกไม้สน มีสารแทนนินที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและช่วยกระชับรูขุมขน
• น้ำมันหอมระเหยจากพืชต่างๆ เช่น ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ คาโมมายล์ เป็นต้น มีกลิ่นหอมที่ช่วยปกปิดกลิ่นตัว

2. สารสังเคราะห์

• กรดซาลิไซลิก ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
• ทีทรีออยล์ มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านเชื้อแบคทีเรีย
• กรดแลคติก ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกและแบคทีเรียออกจากผิว

นอกจากนี้ สบู่ลดกลิ่นบางชนิดอาจผสมผสานส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดกลิ่น เช่น สารเพิ่มความชุ่มชื้น สารต้านการอักเสบ สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

4. ครีมหรือโลชั่น บำรุงผิวกาย

การดูแลผิวกายในผู้สูงอายุ ควรเน้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น และปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ โดยสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิค เซราไมด์ วิตามินอี เป็นต้น และสารที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น คอลลาเจน อีลาสติน เป็นต้น นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำบ่อยๆ และใช้น้ำอุ่นในการอาบน้ำ ไม่ใช้สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรง และควรทาครีมกันแดดทุกวันแม้ในวันที่ฝนตกหรือมีเมฆมาก

ส่วนผสมที่น่าสนใจในครีมบำรุงผิวกายสำหรับผู้สูงอายุ

• ส่วนผสมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น สารสกัดจากลาเวนเดอร์ สารสกัดจากโรสแมรี่ เป็นต้น ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• ส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บ เช่น โปรตีนจากข้าวสาลี ซิงค์ เป็นต้น ช่วยให้เส้นผมและเล็บแข็งแรง ไม่เปราะหัก
• ส่วนผสมที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เช่น สารกันแดด SPF 30 PA+++ เป็นต้น ช่วยให้ผิวไม่หมองคล้ำ และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้สูงอายุ และทำให้ครีมบำรุงผิวกายสำหรับผู้สูงอายุมีความแปลกใหม่และน่าสนใจยิ่งขึ้น

แนวทางการทำตลาด กลุ่มผู้สูงอายุ

1. การศึกษาพฤติกรรมสำคัญมาก

เป้าหมายทางการตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่การมุ่งเฉพาะกลุ่ม อาจทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกถึงความแปลกแยกได้ แบรนด์ควรทำความเข้าใจพฤติกรรม วิธีการมองโลก แนวคิด การใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะการมองว่าคนวัยนี้แก่ เฉยชา หัวโบราณ ไม่กระตือรือร้น หรือไม่กล้าลองสิ่งใหม่ๆ อาจทำให้แบรนด์พลาดโอกาสในการเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้

จากงานวิจัยจาก Age of Majority ที่พบว่า กว่า 95% ของผู้สูงอายุที่ทำแบบสำรวจ ออกกำลังกายนอกบ้านเกือบทุกวัน และอีกกว่า 52% ชอบที่จะลองสินค้าใหม่ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้าสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าการมองผู้สูงวัยให้แตกต่างจากที่เคยมอง จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้สูงวัยก็มีความทันสมัย เท่าทันเทคโนโลยีไม่ต่างจากกลุ่ม GenZ เช่นกัน 
 

2. ทำการตลาดแบบหวนคืนอดีต (Nostalgia)

1. ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้สูงอายุ

2. เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม

3. เลือกสื่อที่เหมาะสม

4. ออกแบบคอนเทนต์ที่กระตุ้นความทรงจำ

5. สื่อสารด้วยอารมณ์ร่วม

3. การตลาดแบบบอกต่อ ยังใช้ได้

การตลาดแบบบอกต่อ (Referal Marketing) เป็นหนึ่งในวิธีการทำการตาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจาก ผู้บริโภคจะเชื่อถือข้อมูลสินค้าที่มาจากการบอกต่อของคนรู้จัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย ตัวอย่างการทำการตลาดแบบบอกต่อสำหรับสินค้าสกินแคร์ในกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น

• แบรนด์สกินแคร์เปิดตัวแคมเปญ "บอกต่อผิวสวย แจกฟรีครีมบำรุงผิว" โดยให้ผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว ถ่ายรูปผิวสวยที่ใช้ผลิตภัณฑ์ แล้วโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ที่โพสต์ได้ยอดไลค์สูงสุดจะได้รับรางวัลครีมบำรุงผิวฟรี
• แบรนด์สกินแคร์จัดกิจกรรม "คลินิกผิวสวยฟรี" โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาตรวจสภาพผิวและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวแก่ผู้สูงอายุฟรี ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับผลิตภัณฑ์ทดลองใช้ฟรี
• แบรนด์สกินแคร์ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีสูตรเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ โดยให้ผู้สูงอายุที่สนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ฟรีก่อนวางจำหน่ายจริง

4. ใช้ภาษาในการสื่อสารให้เหมาะสม

โลกออนไลน์ที่ทุกอย่างไปไว ทำให้คำศัพท์ที่เกิดขึ้นใหม่มักจะมีความหมายที่ตลกขบขันและสามารถสร้างเสียงหัวเราะได้เสมอ โดยเฉพาะ คำศัพท์วัยรุ่น ที่ใช้กันในโลกโซเชียล ถึงแม้ว่าผู้สูงวัยจะเล่นโซเชียลกันเก่งมากขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจในคำศัพท์ฮิตหรือคำแสลง การเลือกใช้ภาษาที่คนส่วนใหญ่เข้าใจจึงช่วยให้สื่อสารได้ง่ายกว่า 

เรื่องของวัย อายุ หรือร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป เป็น inisight ที่แบรนด์เลือกหยิบมาใช้ในการสื่อสารได้ แต่ไม่ควรสื่อสารเล่นกับความรู้สึกในแง่ลบ ให้ดูน่ากลัว ดูน่าวิตกกังวล เพราะผู้สูงอายุเองก็ต้องการหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตต่อไป แม้จะอายุมากขึ้นทุกวันก็ตาม การสื่อสารในเชิงบวก เช่น การบอกว่าแบรนด์มีตัวช่วย มีสิ่งที่ทำให้ชีวิตพวกเขาง่ายขึ้น ก็สามารถทำให้ผู้บริโภคสูงวัยสนใจได้ 

---------------------------------------------------

สำหรับใครที่อยากสร้างแบรนด์และพัฒนาสูตรสครับเฉพาะของแบรนด์สูตรของตนเองแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสร้างแบรนด์ได้ที่...