สบู่จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าสิ้นเปลือง เป็นสินค้าอุปโภคที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันทุกบ้านต้องมีสบู่ แม้แต่โรงแรม รีสอร์ท ก็ต้องมีสินค้าอย่างสบู่ไว้บริการลูกค้าด้วยทั้งนั้น 
ตลาดของสบู่จึงถือว่ามีมูลค่าสูงแต่ในทางกลับกันผู้แข่งขันก็มาก จึงเกิดการแข่งขันกันพัฒนาสบู่ในรูปแบบต่างๆ มองจากภายนอกเข้าไปหลายคนฟันธงว่านักธุรกิจหน้าใหม่นั้นเกิดได้ยากแต่ 
www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ายังมีโอกาสที่เป็นไปได้กับการแจ้งเกิดด้วยการทำธุรกิจนี้เพียงแต่ต้องรู้หลักและวิธีการที่ดีเท่านั้น วิเคราะห์ตลาดสบู่ มี 2 กลุ่มหลักๆ คือ 
1.สบู่เพื่อความงาม เป็นตลาดใหญ่ที่มีการแข่งขันสุงมากมูลค่าในตลาดก็หลายพันล้านบาทต่อปี สบู่ในหมวดหมู่นี้เช่น สบู่กลูต้า, สบู่เน้นผิวขาว, สบู่สิว เป็นต้น 
อย่างไรก็ดีข้อดีของยุคนี้คือการมีธุรกิจOEMที่ช่วยในการผลิตเพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องจับกลุ่มตลาดที่ตัวเองต้องการให้ได้ว่าสบู่แบบไหนที่จะเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายที่สุด
 2.สบู่สมุนไพร กระแสคนรักสุขภาพที่มาแรงก็ทำให้สบู่สมุนไพรเป็นอีกตัวเลือกที่คนหันมาทำเป็นสินค้ากันมาก ส่วนผสมของสบู่สมุนไพรส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครื่องเทศสมุนไพรไทยอย่าง ขมิ้น อัญชัญ มะขามป้อม 
กวาวเครือ ใบบัวบก รวมถึงพวกสบู่ชาร์โคลต่างๆ ด้วย การจะทำแบรนด์สบู่เป็นธุรกิจก็ควรจะโฟกัสไปเลยว่าเราจะเลือกตลาดไหนซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความถนัดของเรามากกว่า
 
ดังนั้นขั้นตอนหลักๆที่จะทำแบรนด์สบู่ให้ประสบความสำเร็จ เมื่อเลือกสินค้าที่ตัวเองต้องการโฟกัสได้แล้วส่วนที่เหลือก็คือ 
1.วางแผนการผลิต   เราต้องคิดว่าขั้นตอนนี้จะลงทุนแบบไหน จะเลือกใช้โรงงานที่รับผลิตหรือต้องการผลิตเองซึ่งหากคิดผลิตเองปัจจุบันก็มีคอร์สที่เปิดสอนการทำสบู่แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแนวของสบู่สมุนไพร
ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ในกรณีที่เลือกโรงงานผลิตนั้นก็ต้องศึกษาต่ออีกว่ามีบริการรับผลิตตามสูตรที่เราต้องการหรือไม่ มีบริการอะไรบ้างนอกเหนือจากตัวสบู่ 
เช่นออกแบบบรรจุภัณฑ์การขึ้นทะเบียน เป็นต้น 
2.แบรนด์ต้องดีมีคุณภาพให้ลูกค้าจดจำ   หากยังมองไม่ออกถึงความสำคัญของแบรนด์ลองนึกถึงกระเป๋ายี่ห้อดังๆ 
ถ้ามันเป็นของบริษัทหรือโรงงานอื่นทำออกมาในแบบเดียวกันราคาเดียวกัน แต่ไม่ใช่แบรนด์นี้จริงๆ คุณจะยังซื้ออยู่หรือไม่ 
คำตอบก็คือเราก็อยากได้แบรนด์ที่เป็นเจ้าของตำหรับสินค้าเพราะรู้สึกเชื่อมั่นมากกว่า สบู่ก็เช่นกันหากเราทำแบรนด์ให้น่าจดจำคือมีคุณภาพของสินค้าที่ดีต่อให้ในอนาคต
มีสินค้าลอกเลียนแบบของเราตามมาคนก็ยังจะจงรักภักดีต่อแบรนด์ของเราอย่างไม่เสื่อมคลายเรื่องของการสร้างแบรนด์ ! 
3.โฟกัสกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด 
ยิ่งเราโฟกัสกลุ่มเป้าหมายชัดเท่าไหร่เราก็สามารถสร้างแบรนด์รวมถึงสินค้าตอบสนองได้มากเท่านั้น เช่น กลุ่มวัยรุ่น ที่มีชอบดาราเกาหลี ยังไม่มีรายได้ ชอบความทันสมัย
 เราก็จะสามารถออกแบบทั้งสินค้าและรูปแบบของตราสัญลักษณ์ให้ตรงกับความพอใจได้ชัดเจน และอย่าลืมเรื่องราคาที่ต้องไม่สูงเว่อร์จนเกินไปให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ 
4.การตลาดต้องทำให้เป็น ยุคนี้สินค้าดีอย่างเดียวไม่รวย ต้องทำการตลาดเก่งด้วย ข้อดีของยุคนี้คือสื่อโซเชี่ยลมีให้เลือกมากมายทั้ง 
facebook,line,Instragram,website หรือว่า youtube การที่ทำสบู่เป็นสินค้าเราต้องเลือกว่าจะใช้การโฆษณาแบบไหนให้คนรู้จัก 
จะเลือกการใช้พรีเซนเตอร์ หรือเลือกโพสต์ขายไปตรงๆ หรือจะจ้างคนรีวิวสินค้า ขึ้นมา การทำตลาดยิ่งเปิดกว้างยิ่งมีคนเห็นคนรู้จักมาก 
ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มาก สบู่เป็นสินค้าที่เราไม่ต้องอธิบายว่าคืออะไรแต่สิ่งที่ลูกค้าอยากรู้คือดีอย่างไรแล้วเขาจะได้ประโยชน์อะไรกับการเลือกใช้สบู่ของเรา
ทั้งนี้เรื่องการหาแหล่งผลิตก็เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะการได้โรงงานผลิตที่ดีจะทำให้เราต่อยอดธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วย 
อย่างที่กล่าวไปว่าการเลือกโรงงานไม่ควรจะเน้นว่าขอให้ราคาถูกแต่ต้องดูที่คุณภาพ 
ลองมาดูเทคนิคการเลือกโรงงานผลิตสบู่ว่าเราต้องรู้อะไรบ้าง 
- โรงงานมีผลิตภัณฑ์คุณภาพอยู่แล้ว มีสูตรดี วัตถุดิบดี สามารถผลิตสินค้าให้เราได้ทันที 
- โรงงานมีบริการครบวงจร ตั้งแต่ผลิต ออกแบบโลโก้ แพคเกจ บรรจุ รวมไปถึงการของอย. และส่งสินค้าถึงที่
- โรงงานมีบริการแนะนำทางการตลาด การออกแพคเกจ ในราคาที่เหมาะสมกับต้นทุนที่มี 
- โรงงานสะอาดและทำงานเป็นระบบเชื่อถือได้ว่า ไม่มีการผลิตสินค้าเกรดต่ำกว่ามาตรฐาน 
- โรงงานมีสินค้าสำเร็จรูปได้ทดลองคุณภาพก่อนตัดสินใจ 
- เป็นโรงงานที่แน่ใจได้ว่าหากเราประสบความสำเร็จในสบู่ล็อตแรกจะสามารถสั่งผลิตล็อตที่2ได้ทันที 
จะเห็นได้ว่าหากมองว่าสบู่เป็นสินค้าง่ายๆ แต่ในความจริงมีความซับซ้อนที่เราต้องศึกษา 
สินค้าที่ดีก็ต้องคู่กับการตลาดและการบริหารที่ดี คู่แข่งที่มากมายอาจไม่สำคัญเท่ากับการแข่งขันกับตัวเองที่ต้องต่อยอดต่อเนื่องและไม่หยุดที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
SMEs Tips เลือกกลุ่มสินค้าว่าต้องการโฟกัสกลุ่มไหน สรรหาโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานสามารถต่อยอดการทำธุรกิจได้ 
อย่าคิดทำสินค้าที่ต้นทุนถูกแต่ไม่มีคุณภาพ ต้องทำตลาดให้เป็นโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ สินค้าที่มีคู่แข่งมากเราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองโดดเด่นที่สุด 
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://www.thaismescenter.com